วันพุธที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2553
ทำแผนที่ไปบ้านตัวเองง่ายๆ ผ่าน Google Maps
1. ต้องบอกก่อนว่าบ้านเราอยู่แถวไหน โดยสมมุติว่า ซอย 12 ซอยหมู่บ้านเจริญสุข ถนนรัชดาภิเษก 18 ห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร
2. จากนั้นเข้าไปที่ http://maps.google.co.th/
3. กรอกชื่อถนน กับเขต และจังหวัดลงไปก่อนก็จะได้ข้อมูลดังภาพ
4. จากนั้นให้คุณคลิ๊กเลือกไปที่ "เส้นทาง" ที่อยู่ในเมนูด้านขวามือ
5. ที่นี้เมนูด้านซ้ายมือก็จะเปลี่ยนไปเป็นการแสดงเส้นทางจาก A ไป B โดย A คือ ต้นทาง และ B เป็นปลายทาง ซึ่งข้อมูลที่กรอกตอนแรกนั้นจะเป็นปลายทาง ส่วนข้อมูลใน A จะว่างไว้ แต่จะมาแสดงผลที่ในรูปแผนที่สีแดง แทน
6. ต่อไปก็ต้องสร้างรูป B ซึ่งเป็นปลายทางในแผนที่ขึ้นมา โดยการก็อบปีข้อมูลที่อยู่ใน B ไปใส่ไว้ใน A
7. ทีนี้แผนที่จะเปลี่ยนสเกลให้ละเอียดขึ้น จะเห็นรูป B ที่เป็นสีเขียวขึ้นมาแทน ซึ่งจริงๆ แล้ว ณ ตอนนี้จะมีรูป B กับรูป A ทับซ้อนกันอยู่
8. ให้คุณปรับสเกลที่อยู่ด้านซ้ายมือใหม่ ให้หยาบขึ้นโดยการเลื่อนกดเครื่องหมาย - จนได้ขนาดเดียวกับตอนแรกหรือขนาดที่คุณจะเห็นบ้านคุณอยู่ในแผนที่ได้
9. เลื่อนจุด B ไปยังปลายทางซึ่งในที่นี้คือ ซอย 12 ซอยหมู่บ้านเจริญสุข ถนนรัชดาภิเษก 18 ห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร
10. แล้วเลื่อนจุด A ไปอยู่ตรงปากซอยรัชดาภิเษกซอย 18
จากนั้นคุณกับแต่งภาพให้ดูเหมาะสมเสียหน่อย เท่านี้คุณก็ได้แผนที่จากถนนใหญ่เข้าไปถึงบ้านคุณแล้ว พร้อมในแผนที่ยังบอกเส้นทางและระยะทางอีกด้วย
วันพฤหัสบดีที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2553
1 เปิดเบราเซอร์แล้วเข้า http://maps.google.com แล้วเลือกพื้นที่บริเวณที่ต้องการ
2 ใช้เครื่องมือ Print screen แล้วให้โปรแกรม photoshop หรือ paint ตัดพื้นที่เฉพราะพื้นที่ข้อมูลที่ต้องการดังภาพ
3 บันทึกภาพเป็นไฟล์ TIFF
4 เปิดโปรแกรม ArcMap เพิ่มข้อมูลภาพเข้าไปใน ArcMap
5 ในการกำหนดพิกัดให้กับภาพข้อมูลดาวเทียมที่นำเข้ามานั้น สามารถใช้โปรแกรมประมวลข้อมูลเชิงเลข เช่น ENVI หรือ Erdas หรือถ้าต้องการใช้ให้เป็นแค่แผนที่ฐานในการสร้างข้อมูล Vector สามารถใช้โปรแกรม ArcMap ในการกำหนดพิกัดได้
6 คลิกขวาที่ Toolbar > Georeferencing จะปรากฏเครื่องมือ Georeferencing ขึ้นมา
7 เพื่อให้ได้พิกัดที่ใช้ในการกำหนดพิกัด เราสามารถใช้เว็บไซต์ในการดูค่าพิกัด ได้แก่ http://www.gorissen.info/Pierre/maps/googleMapLocation.php และเว็บไซต์ที่ใช้ในการแปลงค่าพิกัดให้เป็นระบบ UTM เพื่อให้ได้ภาพข้อมูลที่มีพิกัดเป็นหน่วยเมตร ได้แก่http://home.hiwaay.net~taylorc/toolbox/geography/geoutm.html
8 เลือกเครื่องมือ Add Control Points เพื่อเพิ่มภาพข้อมูล คลิกที่จุดที่ต้องการเพิ่มเป็นจุดควบคุมให้แม่นยำ
9 นำข้อมูลพิกัดในเว็บhttp://www.gorissen.info/Pierre/maps/googleMapLocation.php มาแปลค่าเป็น Zone 47 and hemisphere N แล้วนำค่าไปใส่ในค่า X,Y ในจุดควบคุมพิกัดใน ArxMap หาจุดควบคุยอย่างน้อง 4 จุดเพื่อความถูกต้อง จากนั้นให้เลือก Georeferecing > Updata Georeferecing
10 ภาพข้อมูลที่ได้นั้นพร้อมที่จะใช้ในการนำเข้าข้อมูลเวกเตอร์ได้
11 เปิดโปรแกรม ArcCatalog คลิกขวาบริเวณที่ว่างเลือก New > Shapefile… แล้วสร้างชั้นข้อมูลใหม่เป็น Point , Polyline , Polygon กำหนดชื่อใหม่ตามความต้องการ และเพิ่มชั้นข้อมูลที่สร้างใหม่ลงใน ArcMap
12 ไปที่แถบเครื่องมือให้เลือก Editor > Start Editing เมื่อต้องการเพิ่มข้อมูลให้ตรวจสอบ Target ให้ถูกต้องในกรณีที่มีหลายชั้นข้อมูลเปิดอยู่
13 ทำการ digitize ภาพข้อมูล พื้นที่เป็น Polygon ถนนเป็น Polyline หมู่บ้านให้เป็น Point
ข้อมูลภาพเมื่อทำการ Digitize เสร็จแล้ว
รูปแบบรายงาน
วันอังคารที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2553
ภาษา SQL (Standard Query Language)
ภาษา SQL (Standard Query Language)
9.1 ภาษา Standard relational database Query Language (SQL)
ภาษาที่กลายเป็นภาษามาตรฐานสำ หรับระบบฐานข้อมูลคือ ภาษา Standard relational database
Query Language หรือเอสคิวแอล (SQL) หรือซีควอล (SE-QUEL) ซึ่งเป็นภาษาที่พัฒนาขึ้นมาโดยบริษัท
ไอบีเอ็ม ภาษา SQL (Standard Query Language) เป็นส่วนหนึ่งของระบบฐานข้อมูลแบบรีเลชั่นเนล
(Relational Database) ที่ได้รับความนิยมมากเพราะง่ายต่อความเข้าใจ และอยู่ในรูปภาษาอังกฤษ ภาษา
SQL แบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ
1 ภาษาที่ใช้สำ หรับนิยามข้อมูล (Data Definition Language-DDL)
2 ภาษาสำหรับการจัดการข้อมูล (Data Manipulation Language: DML)
• ภาษาควบคุม (Control Language)
• ภาษาในการเลือกข้อมูล (Data Query Language)
รูปแบบการใช้คำ สั่ง SQL สามารถใช้ได้เป็น 2 รูปแบบ ดังนี้ คือ
• คำ สั่ง SQL ที่ใช้เรียกดูข้อมูลได้ทันที (Interactive SQL)
เป็นการเรียกใช้คำ สั่ง SQL สั่งงานบนจอภาพ เพื่อเรียกดูข้อมูลในขณะที่ทำ งานได้ทันที เช่น
SELECT CITY
FROM SUPPLIER
WHERE SNO = ‘SE’;
• คำ สั่ง SQL ที่ใช้เขียนร่วมกันโปรแกรมอื่น ๆ (Embedded SQL)
เป็นคำ สั่ง SQL ที่ใช้ร่วมกับคำ สั่งของโปรแกรมภาษาต่าง ๆ เช่น PL/1 PASCAL ฯลฯ หรือแม้
แต่กับคำ สั่งในโปรแกรมที่ระบบจัดการฐานข้อมูลนั้นมีใช้เฉพาะ เช่น ORACLE มี PL/SQL (Procedural
Language /SQL) ที่สามารถเขียนโปรแกรมและนำ คำ สั่ง SQL มาเขียนร่วมด้วย เป็นต้น
ตัวอย่างการใช้คำ สั่ง SQL ในภาษา PL/1
EXEC SQL SELECT CITY
INTO :XCITY
FROM SUPPLIER
WHERE SNO = ‘S4’;
9.2 ภาษาที่ใช้สำ หรับนิยามข้อมูล (Data Definition Language-DDL )
Data Definition Language (DDL) เป็นภาษาที่ใช้นิยามโครงสร้างข้อมูล เพื่อเปลี่ยนแปลง หรือ
ยกเลิกโครงสร้างฐานข้อมูลตามที่ออกแบบไว้ โครงสร้างดังกล่าวคือ สคีมา (Schema) นั้นเอง ตัวอย่างเช่น
การกำหนดให้ฐานข้อมูลประกอบด้วยตารางอะไรบ้าง ชื่ออะไร ประเภทใด มี อินเด็กซ์ (Index)
ภาษา DDLประกอบด้วย 3 คำ สั่งคือ
• คำ สั่งการสร้าง (Create) ได้แก่ การสร้างตารางและอินเด็กซ์
CREATE TABLE